Background



กิจกรรมการรณรงค์ลดใช้พลังงาน
เชิญชวนร่วมรณรงค์ ประหยัดพลังงาน
10 กรกฎาคม 2566

61


เชิญชวนร่วมรณรงค์ ประหยัดพลังงาน "สร้างนิสัยรักษ์สิ่งแวดล้อม"
"พลังงาน" ถือเป็นสิ่งที่มีค่าและมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันของเราทุกคนไม่ว่าจะเป็นพลังงานน้ำ พลังงานน้ำมัน พลังงานไฟฟ้า ซึ่งความต้องการใช้พลังงานมีอัตราที่เพิ่มมากขึ้นทุก ๆ ปี ในขณะที่พลังงานต่าง ๆ มีอยู่อย่างจำกัด ดังนั้น วิธีการประหยัดพลังงานซึ่งทำได้ทุกแห่งไม่ว่าจะในบ้าน ในรถยนต์ ในโรงเรียน และในสถานที่ทำงาน แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าเราจะทำอย่างไรถึงจะช่วยกันประหยัดพลังงานของชาติให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ของทุกคนได้ ต่อไปนี้เป็นคำตอบถึงวิธีการประหยัดพลังงานอย่างง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้

 

ประหยัดพลังงานในออฟฟิศด้วย 10 วิธีง่าย ๆ
4 กรกฎาคม 2565

61


กระแสการประหยัดพลังงานกำลังมาแรงขณะนี้ไม่ว่าที่ไหน ๆ ต่างก็ตั้งกฎกติกามารยาทที่รณรงค์กระตุ้นจิตสำนึก แห่งการประหยัดพลังงานแทบทุกที่ สำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ๆ แม้หลายคนที่ตอนนี้กำลังทำงานจากที่บ้าน แต่มีบางส่วน ที่ต้องเข้าออฟฟิศมาทำงานไม่น้อยกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งใช้พลังงานกันไม่น้อยเลยทีเดียว อบต.แกลงจึงขอนำเสนอวิธีการง่าย ๆ ที่จะช่วยประหยัดพลังงานในออฟฟิศ มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง ?

1. ปิดสวิตซ์เครื่องคอมพิวเตอร์และพรินเตอร์เมื่อเลิกใช้หรือทำงานเสร็จแล้ว จะประหยัดเงินถึง 2,500 บาทต่อปี อีกทั้ง การปิดเครื่องทุกครั้งควรจะพักเครื่องอย่างน้อย 1 ชั่วโมงจึงจะเปิดใหม่ เพื่อเป็นการอนุรักษ์พลังงานอย่างถูกวิธี ไม่ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์และพรินเตอร์มีอายุการใช้งานสั้นลงตามความเชื่อผิด ๆ

2. เมื่อต้องทำงานเกี่ยวกับการแก้ไขเอกสารควรจะแก้ไขบนจอคอมพิวเตอร์ให้เรียบร้อยก่อนแทนที่จะแก้ไขบนเอกสาร ที่พิมพ์จากเครื่องพิมพ์หลาย ๆ ครั้ง เพราะจะทำให้ประหยัดทั้งไฟฟ้า กระดาษ และหมึกพิมพ์

3. การใช้งานระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือการใช้สายต่อเชื่อมเพื่อใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกัน จะเป็นการลดจำนวนเครื่องพิมพ์ที่ตั้งอยู่อย่างไร้คุณค่าในเวลาที่ไม่ได้ใช้งานภายในสำนักงานได้

4. พิจารณาเลือกซื้อเครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก (Inkjet) หรือแบบ (Dot Matrix) สำหรับระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ที่ใช้เครื่องพิมพ์ร่วมกัน แม้ว่าบางเครื่องจะทำงานช้าและมีเสียงดัง นอกจากนี้ เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึกจะใช้ไฟฟ้าเพียง 70-90 เปอร์เซ็นต์ ของการใช้ไฟฟ้าของเครื่องพิมพ์เลเซอร์ คุณภาพการพิมพ์ก็จะเป็นที่ยอมรับได้

5. ปิดเครื่องถ่ายเอกสารเมื่อหมดเวลาทำงานในแต่ละวัน และในวันหยุดสุดสัปดาห์ เครื่องถ่ายเอกสารจะใช้ไฟฟ้ามาก ในการเตรียมเครื่องเพื่อให้พร้อมที่จะทำงาน

6. ถ้าต้องการส่งหนังสือหรือเอกสารให้ผู้ร่วมงานโปรดใช้การส่งต่อ ๆ กันให้อ่านเอกสารชุดเดียวกัน แทนการถ่ายเอกสารหลาย ๆ ชุด

7. หลีกเลี่ยงการถ่ายเอกสาร (จากข้อมูลที่ส่งมาทางเครื่องโทรสาร) ของโทรสารลงบนกระดาษธรรมดา ซึ่งการถ่ายเอกสารดังกล่าวทำให้เกิดการสูญเสียทั้งกระดาษและไฟฟ้า ถ้าต้องการได้โทรสารบนกระดาษธรรมดาควรพิจารณาซื้อเครื่องโทรสาร ชนิดกระดาษธรรมดา หรือซื้ออุปกรณ์แปลงสัญญาณโทรสารผ่านเข้าสู่จอคอมพิวเตอร์

8. ลดการสูญเสียกระดาษเพิ่มมากขึ้นด้วยการหลีกเลี่ยงการใช้กระดาษปะหน้าโทรสารชนิดเต็มแผ่น และหันมาใช้กระดาษขนาดเล็กที่สามารถตัดพับบนโทรสารได้ด้วยแทน

9. ถ้าใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่นอกสำนักงานควรเลือกใช้คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กแทนเครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ จะช่วยประหยัดเงินได้ถึง 1,000-2,000 บาทต่อปีขึ้นอยู่กับการใช้คอมพิวเตอร์บ่อยแค่ไหน อีกทั้งเมื่อต้องเลือกซื้ออุปกรณ์สำนักงานใหม่ควรเลือกซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์จอภาพและเครื่องพิมพ์ที่มีประสิทธิภาพในการใช้ไฟฟ้าหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน

10. ปิดเครื่องใช้สำนักงานทุกชนิดภายหลังเลิกงาน หรือเมื่อไม่ได้ใช้งานแล้ว เช่น เครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้า เครื่องตัดกระดาษไฟฟ้า เครื่องพับกระดาษไฟฟ้า และเครื่องใช้สำนักงานอื่น ๆ ที่มีลักษณะการใช้งานเฉพาะ ซึ่งทำให้เกิดการสูญเสียพลังงาน ถ้าถูกเปิดเครื่องทิ้งไว้เมื่อไม่มีการใช้งาน

10 วิธีง่าย ๆ เช่นนี้ก็สามารถประหยัดพลังงานในออฟฟิศได้แล้ว ไม่ยากเลยใช่ไหม ?

4ป. ประหยัดพลังงาน ช่วยโลกประหยัด ค่าไฟเรายิ่งประหยัด!
7 กุมภาพันธ์ 2565

59


4ป. ประหยัดพลังงาน ช่วยโลกประหยัด ค่าไฟเรายิ่งประหยัด!

ใครที่ยังช็อคกับค่าไฟเดือนล่าสุดไม่หาย อยากให้มารวมตัวกันตรงนี้ค่ะ เรามีวิธีที่ทั้งช่วยประหยัดพลังงานและช่วยลดค่าไฟได้แบบง๊ายง่าย ที่เรียกว่า 4 ป.ประหยัดพลังงานมาฝากค่ะ

1.ป. ปิด ก็คือ ปิดไฟเมื่อไม่ได้ใช้ อันนี้แน่นอนว่าทุกคนถ้าจะประหยัดพลังงานก็คือ ไม่ต้องใช้พลังงาน ปิด เมื่อไม่ใช้งาน เช่น ปิดสวิชไฟ แอร์หรือว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ค่อยเปิดอีกครั้งเมื่อต้องการใช้งานค่ะ
2.ป.ปลด ก็คือ ปลดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆเมื่อเราเลิกใช้งาน เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีคลื่นรีโมททุกชนิด เช่น ทีวีหรือเครื่องเสียง ทุกครั้งที่เราปิดแล้วแต่ที่ตัวเครื่องยังมีไฟสีแดงติดอยู่นั่นหมายถึง เครื่องยังอยู่ในโหมดพร้อมใช้งาน จึงยังกินไฟอยู่ ทางที่ชัวร์ คือต้องปลดปลั๊กออกทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งานนะคะ
3.ป.ปรับ ตัวอย่างที่เห็นชัดที่สุดคือการปรับอุณหภูมิแอร์ค่ะ มาตรฐานทั่วไปที่เรารู้กันดีคือการรับอุณหภูมิไปที่ 25 องศา เราจะเย็นสบาย แต่ถ้าอยากจะประหยัดพลังงานเพิ่มอีกสักนิด ก็สามารถปรับอุณหภูมิเพิ่มขึ้นเป็น 26 องศา 1องศาที่ปรับเพิ่มขึ้นจะช่วยประหยัดไฟได้ประมาณ 50% ทีเดียวค่ะ
4.ป.เปลี่ยน เปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่มีประสิทธิภาพ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าๆที่อาจจะเคยซื้อมานานแล้ว รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เปลี่ยนใหม่ให้เป็นของดีมีคุณภาพ ที่สำคัญมีฉลากระหยัดไฟเบอร์ 5 แค่นี้ก็จะทำให้เราประหยัดพลังงานในชีวิตประจำวันได้ง่ายๆค่ะ

 

สารพัดวิธีประหยัดไฟ ลดใช้พลังงาน
1 กุมภาพันธ์ 2565

63


อย่างไรก็ตาม จริง ๆ แล้ว สำหรับการประหยัดไฟนั้น เป็นเรื่องที่พวกเราทุกคนควรจะร่วมมือกันทำเป็นปกติอยู่แล้วในทุก ๆ วัน ไม่ใช่เพียงการประหยัดแค่เฉพาะช่วงที่เกิดเหตุฉุกเฉิน นั่นเพราะว่าการประหยัดไฟ นอกจากจะเป็นการช่วยชาติ ช่วยรักษาเงินในกระเป๋าของเราแล้ว ยังเป็นการช่วยโลกอีกต่างหาก ซึ่งการประหยัดไฟ ก็เป็นสิ่งง่าย ๆ ใกล้ตัวที่เราสามารถทำได้กันทุกคนอยู่แล้ว ว่าแต่จะมีวิธีไหนบ้างนั้น วันนี้เรามีมาบอกกันจ้า
 

วิธีประหยัดไฟ

  1. ปิดสวิตซ์ไฟ และเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดเมื่อเลิกใช้งาน ดับไฟทุกครั้งที่ออกจากห้อง
  2. เลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน ดูฉลากแสดงประสิทธิภาพให้แน่ใจทุกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ หากมีอุปกรณ์ไฟฟ้าเบอร์ 5 ต้องเลือกใช้เบอร์ 5
  3. ปิดเครื่องปรับอากาศทุกครั้งที่จะไม่อยู่ในห้องเกิน 1 ชั่วโมง สำหรับเครื่องปรับอากาศทั่วไป และ 30 นาที สำหรับเครื่องปรับอากาศเบอร์ 5
  4. หมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศของเครื่องปรับอากาศบ่อย ๆ เพื่อลดการเปลืองไฟในการทำงานของเครื่องปรับอากาศ
  5. ตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ 25 องศาเซลเซียส
  6. ไม่ควรปล่อยให้มีความเย็นรั่วไหลจากห้องที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ตรวจสอบและอุดรอยรั่วตามผนัง ฝ้าเพดาน ประตูช่องแสง และปิดประตูห้องทุกครั้งที่เปิดเครื่องปรับอากาศ
  7. ลดและหลีกเลี่ยงการเก็บเอกสาร หรือวัสดุอื่นใดที่ไม่จำเป็นต้องใช้งานในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ เพื่อลดการใช้พลังงานในการปรับอากาศ
  8. ใช้มู่ลี่กันสาดป้องกันแสงแดดส่องกระทบตัวอาคาร และบุฉนวนกันความร้อนตามหลังคาและฝาผนัง เพื่อไม่ให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักเกินไป
  9. ควรปลูกต้นไม้รอบ ๆ บ้าน เพราะต้นไม้ขนาดใหญ่ 1 ต้น ให้ความเย็นได้เท่ากับเครื่องปรับอากาศ 1 ตัน
  10. ควรปลูกต้นไม้เพื่อช่วยบังแดดข้างบ้านหรือเหนือหลังคา เพื่อเครื่องปรับอากาศจะไม่ต้องทำงานหนักเกินไป
  11. ปลูกพืชคลุมดินเพื่อช่วยลดความร้อน และเพิ่มความขึ้นให้กับดิน จะทำให้บ้านเย็นขึ้นไม่จำเป็นต้องเปิดเครื่องปรับอากาศ
  12. หากอากาศไม่ร้อนเกินไป ควรเปิดพัดลมแทนเครื่องปรับอากาศ จะช่วยประหยัดไฟได้มาก